ใช้ในการหาเงินออมเงินใช้เงิน 1 เท่ากับให้ตัวเอง 2 ก็คือเตรียมตัวให้พร้อมขายทุกอย่างที่ไม่ใช้มีแต่แยกออกไปเลยเหมือนประกันความเสี่ยงมันทำให้เราไม่ต้องควักเนื้อเราอ่ะหรือเงินเก็บของเราออกมาจ่ายเราไม่รู้อนาคตจริงๆบางคนฮัลโหลสวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่ Channel ของวีนี้นะคะคลิปก่อนหน้านี้ทำเล่าประสบการณ์การออมเงินการเก็บเงินตลอดตั้งแต่พ.ศจนถึงอายุ 33 นะทุกคนก็ถ้าใครยังไม่ได้ดูก็ไปดูกันได้นะคะส่วนคลิปนี้เราจะสรุปร่วมตึง 10 มายเซ็ทที่เราใช้ในการหาเงินออมเงินใช้เงินทั้งหมด 10 ข้อนะคะที่ทำให้เราสามารถเก็บเงินได้ 8 หลักก่อนอายุ 30-8 ซัสโก้ไปดูกันเลยข้อ *** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
1 อยากใช้เงินเยอะต้องหาเงินเก่งสำหรับเราอ่ะเรารู้สึกว่าสามารถใช้เงินได้แต่ว่าเราควรจะมีรายได้ที่เพียงพอและไม่ทำให้ตัวเองหรือคนอื่นเดือดร้อนนะคะแล้วก็การที่เราหารายได้ได้มันทำให้ได้ผ่านการคิดและเหมือนกับผ่านความยากลำบากกว่าจะได้รายได้มาเวลาเราใช้อ่ะมันจะทำให้เราใช้อย่างฉลาดมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยสำหรับเราแล้วก็คือมันคือ Ghost myself สำหรับเราก็คือการที่เราอ่ะเหมือนมีวิธีคิดที่ไม่ได้ติดอยู่กับว่าเรามีรายได้เท่านี้แล้วเราจะอยู่อย่างนี้ใช้ไลฟ์สไตล์ที่เราไม่ชอบแบบนี้ตลอดชีวิตแต่ว่าการที่เรามีกฎหมายเสร็จคือเรามองนอกกรอบออกไปเรามองด้วยความรู้สึกว่าเราอยากจะเติบโต
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
เราก็อยากจะมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นหรือบางคนอาจจะชอบไลฟ์สไตล์ตัวเองอยู่ปัจจุบันแล้วก็โอเคแต่ว่าอย่างบางคนก็รู้สึกว่าเฮ้ยเราอยากใช้ไลฟ์สไตล์แบบนั้นแบบนี้แบบคนนั้นคนนี้หรือว่าอยากมีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับเรามองว่าเราก็จะต้องตั้ง Go ว่าเราอยากมีไลฟ์สไตล์แบบไหนใครอยากให้ทำเรื่องนี้เจาะลึกลงละเอียดพิมพ์คอมเมนต์ไว้ข้างใต้นะคะคลิปนี้จะไปแบบรวดเร็วแล้วก็ไปแค่แต่ละอาทิตย์เป็นข้อๆเป็น mind 7 นะคะสำหรับอย่างนี้ก็คือบีเขียนออกมาเลยตอนนั้นว่าอยากใช้เงินเท่าไหร่ใช้กับอะไรบ้างปีนึงเที่ยวกี่ทีมอยากกินอาหารมื้อดีๆกี่มื้อมื้อธรรมดากี่มื้อเราต้องจ่ายค่าบ้านเท่าไหร่เราต้องจ่ายค่าดูแลตัวเอง
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
อยากใช้เงินเท่าไหร่ใช้กับอะไรบ้างปีนึงเที่ยวกี่ทีมอยากกินอาหารมื้อดีๆกี่มื้อมื้อธรรมดากี่มื้อเราต้องจ่ายค่าบ้านเท่าไหร่เราต้องจ่ายค่าดูแลตัวเองเท่าไหร่เราต้องจ่ายค่าครีมบำรุงผิวเมคอัพเสื้อผ้าหรือเราต้องจ่ายประกันสุขภาพเท่าไหร่เขียนเอามาให้หมดเราอยากมีบ้านแบบไหนเอาให้ละเอียดแล้วก็เราก็หาช่องทางที่เราจะสามารถหารายได้เพื่อให้มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เราอยากใช้นะคะทั้งหมดทั้งปวงตอนที่เราเขียนไม่ได้มีเงินพอนะทุกคนแต่ว่าเรามีมุมมองที่เราอยากจะเติบโตแล้วเราก็รู้สึกว่าถ้าเรามีเป้าหมายชัดเรา
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองอย่างตอนที่เราทำแบรนด์อย่างเงี้ยไม่ใช่ว่าร้านค้าจะวิ่งมาหาเราแต่ว่าเราเองรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสียเราสามารถเดินเข้าไปหาพวกร้านค้าได้เลยว่าเฮ้ยเราอยากสั่งขายตอนที่อยู่ในทำสมุดทำเสื้อก็เดินเข้ามาบอกเลยว่าอยากขายต้องทำยังไงบ้างกับเขาเหมือนกับเขาเขาจะหัก CB เท่าไหร่เราต้องดำเนินการยังไงเราต้องมีสต๊อกเท่าไหร่ก็คือเราอ่ะสร้างโอกาสให้ตัวเองสร้างโอกาสแบบที่ 2 ก็คือการที่เราอ่ะทำตัวเองให้พร้อมเสมอเช่นเราพัฒนาตัวเองเรามีความรู้
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
แล้วเราเองจะเป็นคนที่ขายทุกอย่างที่ไม่ใช้ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือของจุกจิกในบ้านนะคะยกตัวอย่างเช่นเวลาหมิววีเสื้อผ้าเรารู้สึกว่าเฮ้ยมันไม่ได้ใช้จริงๆเราก็จะโพสต์ขายเลยหรือไม่ก็เอาไปขายร้านมือสองขายตามช่องทางต่างๆที่เราคิดว่ามันมีโอกาสขายได้นะคะเพราะว่าหลายครั้งอ่ะเราคิดว่าเออจะสิ้นเคสแล้วกันเผื่อก่อนละกันสุดท้ายส่วนมากมันไม่ได้ใช้ยิ่งเสื้อผ้าประเภทที่แบบเดี๋ยวขอไปแล้วค่อยใช้อย่างนี้ส่วนมากมันจะเหมือน
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
เรามีมุมมองที่เราอยากจะเติบโตแล้วเราก็รู้สึกว่าถ้าเรามีเป้าหมายชัดเราจะรู้ว่าเราควรออกปีละเท่าไหร่เป็นเวลากี่ปีเพื่อให้เราสามารถไปถึงเงินเก็บที่เราอยากเก็บมีลักษณะที่เราอยากใช้ได้นะคะก็เป็นประมาณนี้ค่ะข้อ 2 นะคะก็ยังเป็น mindset เกี่ยวกับการสร้างรายได้อะไรบ้างการหาเงินนะคะเราต้องไม่รอโอกาสแต่เราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองอย่างตอนที่เราทำแบรนด์อย่างเงี้ยไม่ใช่ว่าร้านค้าจะวิ่งมาหาเราแต่ว่าเราเองรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสียเราสามารถเดินเข้าไปหาพวกร้านค้าได้เลยว่าเฮ้ยเราอยากสั่งขายตอนที่อยู่ในทำสมุดทำเสื้อก็เดินเข้ามาบอกเลยว่าอยากขายต้องทำยังไงบ้าง
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
กับเขาเหมือนกับเขาเขาจะหัก CB เท่าไหร่เราต้องดำเนินการยังไงเราต้องมีสต๊อกเท่าไหร่ก็คือเราอ่ะสร้างโอกาสให้ตัวเองสร้างโอกาสแบบที่ 2 ก็คือการที่เราอ่ะทำตัวเองให้พร้อมเสมอเช่นเราพัฒนาตัวเองเรามีความรู้แล้วเราก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้นะคะมันก็จะทำให้เมื่อมีงานที่ดีเข้ามาเราเหมือนพร้อมที่จะแทนโด้พร้อมที่จะรับโอกาสนั้นนะคะสำหรับเราก็คือแบ่งไว้ 2 อย่าง 1 เท่าตัวเอง 2 ก็คือเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อมีโอกาสที่ดีเข้ามาเราจะได้เหมาะสมที่จะรับโอกาสนั้นน่ะค่ะข้อ 3 นะคะเป็นการหาเงินแต่เป็นการหาเงินจากของที่เรามีอยู่แล้วเราเองจะเป็นคนที่ขายทุกอย่างที่ไม่ใช้ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือของจุกจิกในบ้านนะคะยกตัวอย่างเช่น
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
โอกาสขายได้นะคะเพราะว่าหลายครั้งอ่ะเราคิดว่าเออจะสิ้นเคสแล้วกันเผื่อก่อนละกันสุดท้ายส่วนมากมันไม่ได้ใช้ยิ่งเสื้อผ้าประเภทที่แบบเดี๋ยวขอไปแล้วค่อยใช้อย่างนี้ส่วนมากมันจะเหมือนตะโกนด่าเราอยู่ในตู้ว่างคือมันก็ไม่ได้ใช้สักทีอยู่ดีอิเล็กทรอนิกส์กล้องต่างๆถ้าเราไม่ได้ใช้บ่อยแบบ 6 เดือนไม่ได้ไปแตะละก็คิดว่าเออเก็บไว้ก่อนคือราคามันตกเร็วทุกคนเพราะฉะนั้นเราจะขายทิ้งนะคะอันนี้ก็เป็นการสร้างรายได้อีกแบบของเราคืออะไรไม่ใช้ถ้าแบบ 3 เดือนเริ่มมันต้องมานั่งดุละไม่ใช้มันมานานมากแล้ว 6 เดือนนี่คือไปกันใหญ่ละคือไม่ได้ใช้ถ้าปีนึงแล้วยังไม่ใช้อีกขายเลยทุกคนหาช่องทางขายนะคะเชื่อว่าขายได้แล้วก็ ก็ขายไป 300 บาท
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ทุกคนก็คืออย่างน้อยมันก็แบบดีกว่ารกๆอยู่ในบ้านอ่ะมันก็ได้เรียนรู้ด้วยว่าเฮ้ยราคามันตกขนาดนี้จะซื้ออะไรค่อยๆตัดสินใจเพราะเวลาไปขายอ่ะหนึ่งมันยากนะ 2 ก็คือมันราคาตกเยอะนะอะไรประมาณนี้อะไรไม่ใช้ขายทิ้งจ้าข้อ 4 นะคะตั้งแต่คลิปตอนเล่าประสบการณ์การออมเงินแล้วเก็บเงินให้ได้ 8 หลักก่อนนะเราต้องแยกออมก่อนเสมอนะคะคือตอนที่เราเรียนมหาลัยอ่ะหรือว่าตอนที่เราได้เงินเดือนสมัยเป็นเด็กเวลาพ่อแม่ให้อ่ะพี่บีจะแยกออกไปเลยการแยกออมก่อนทำให้เราฉลาดในการบริหารจัดการเงินในการใช้นะคะพอเห็นเงินเยอะมันก็เป็นบ้ามันก็ใช้เยอะพอเห็นว่าเฮ้ยมันมีแค่นี้แล้วมันก็แบบอ่าจากของกินแพงอาจจะลดลงมาหน่อยจากกาแฟแพงๆอาจจะลดลงมาหน่อยอะไรอย่างเงี้ยมันก็จะทำให้เรารู้จักปรับตัวมันจะเป็นเหมือนออโต้แหละพอเราเห็นไงเงินในบัญชีไม่เยอะนะเราก็จะพยายามใช้อะไรที่มันเป็นของทดแทนที่ราคาแบบย่อมเยามากขึ้นนะคะคือถ้าเราอ่ะมีเงินมากขึ้น
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
อยากแบบให้รางวัลตัวเองบ้างอันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตแต่ณวันที่เราแบบ J1 ที่แบบต้องการเก็บเงินจริงๆการแยกออกก่อนเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมแล้วก็การแยกออกก่อนจนเราได้เงินก้อนน่ะมันทำให้เราอ่ะรู้สึกว่าเออมีกำลังใจเราก็ทำได้นี่พอได้เงินก้อนรู้สึกว่าไม่อยากไปใช้หรือไปแตะให้เงินก้อนมันกลายมาเป็นแบบเล็กๆน้อยๆอ่ะทุกคนคิดออกมาคือถ้าเรามีเงินแบบ 50,000 บาทเราก็รู้สึกว่าเอองั้นเอาเก็บไปลงทุนหรือทำอะไรอย่างอื่นดีกว่าถ้าเรามีแบบ 500 ก็เออใช้ๆไปให้มันหมดแต่คือการที่เราแบบออกจาก 500 มาเรื่อยๆมันก็เป็น 50,000 บาท