ถ้าแผ่นคริสตจักรเราต่างก็รู้จักคัมภีร์ไบเบิลที่รวบรวมคำสอนและหลักปฏิบัติสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์เชื่อไหมมีคัมภีร์ลับที่น้อยควรจะรู้จักอยู่จริงๆด้วยนะเด่นนั่นก็คือเอาค่ะพี่ฟ้าหรือคัมภีร์นิรนามไม่เคยเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการมีแต่เล่าขานต่อๆกันมาว่าอ้าปากถูกสร้างขึ้นมาเมื่อราวๆ 200-400 ปีก่อนคริสตกาลจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 1 อันเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับประวัติศาสตร์แห่งคริสตจักรแต่แน่นอนว่าพ่อมีเรื่องนี้หลุดออกไปก็กลายเป็นที่สนใจของผู้คนทันทีด้วยความคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญหรือศักดิ์สิทธิ์ไม่ก็อาจเป็นเรื่องดังๆภายในจนบางคนเดาว่าอาจเป็นคัมภีร์นอกรีตก็ได้ยังไงก็ตามภายหลังมีการเปิดเผยเนื้อหาจริงแต่ก็ไม่ได้ถูกรับรองว่าเป็นหลักคำสอนซะทีเดียวเพียงแค่ยอมรับว่าเนื้อหาเป็นประโยชน์ในด้านแง่คิดและแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวันเท่านั้น 
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ซามูไรผีซามูไรชื่อดังในญี่ปุ่นนั้นมีมากมายแต่ซามูไรที่เย็นที่สุดที่หลายคนคงยังไม่รู้คงต้องยกให้ถ้าราโนะมาซาคาโดผู้ที่ซึ่งเคยก่อการจราจรสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายจนเป็นที่หมายหัวแต่สุดท้ายก็ถูกสังหารโดยคนของจักรพรรดิสู่สาคูและนำศีรษะของซามูไรผู้ดื้อรั้นไปประจานในตลาดโตเกียวขณะที่ร่างไร้ศีรษะถูกฝั่งพร้อมกับคำสาปแช่งไม่ให้วิญญาณสงบสุขซึ่งก็คงจริงเพราะชาวบ้านเราหรือกันว่าศีรษะของมาซาโดนั้นสามารถขยับไปมาและเกาะกาได้ก่อนที่วันนึงศีรษะของเขาจะล่องลอยออกไปตามหาร่างเมื่อถึงหมู่บ้านชาวประมงในชีบาซากิก็ได้รับการทำพิธีและฝังหินก็ยังไม่ลดลงหากมีใครมาก่อกวนหลุมฝังศีรษะก็จะมีอันเป็นไปจากฝีมือของวิญญาณพยาบาทปัจจุบันได้มีการสร้างสรรค์เจ้าให้มาซาคาโดะและอัปเกรดให้เป็นเทพเจ้าไปแล้วเรียบร้อย
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ขากลับการต่อสู้กับแมวเชื่อหมิวว่าเจ้าเหมียวที่ชอบมาพันแข้งพันขาจนหลายคนต้องตกเป็นทาสของความน่ารักนี้เคยถูกหมายหัวว่าเป็นตัวนำความโชคร้ายจนถึงขั้นต่อสู้กับเจ้ากล้องขนกันมาแล้วเรื่องมันก็มีว่าในช่วงศตวรรษที่ 13 ได้มีการกว่ารั้งประชากรแมวโดยอ้างว่าเป็นความประสงค์ของพระสันตะปาปาเกรด Glory ที่ 9 ที่เชื่อว่าแมวทั้งหลายมีวิญญาณซาตานสิงอยู่อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับแม่มดและมนต์ดำโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวดำจะถูกเพ่งเล็งมาเป็นพิเศษงานนี้เจ้าเหมียวก็ต้องถูกกำจัดจะเชื่อไหมแม้ว่าประชากรแมวลดลงไปก็ไม่ช่วยโรคระบาดลดลงแถมทำให้หนูจี๊ดออกลูกออกหลานเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้กาฬโรคเกิดการระบาดหนักเข้าไปอีกก่อนที่ความเชื่อแบบนี้จะค่อยๆสานลงไปเมื่อถึงศตวรรษที่ 18 สถานะของน้องแมวก็ถูกยกระดับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักและอัปเกรดเป็นเจ้านายของหลายๆบ้านแบบในปัจจุบัน
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
รายชื่อของฟาโร่เริ่มเห็นที่อียิปต์ซึ่งเป็นตำนานสุดสานฟาโรห์อันเลื่องชื่อหลายแห่งนั่นทำให้ผู้คนสนใจและอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วกษัตริย์ฟาโรห์นั้นมีกี่พระองค์กันแน่แต่ก็ไม่เคยมีใครได้คำตอบที่แน่ชัดจนกระทั่งปี 1820 bernardinoating อิตาลีได้เดินทางไปที่เมืองรักซอบอียิปต์และพบรายชื่อกษัตริย์ฟาโร่ซึ่งเขียนเรียบเรียงไว้ในป่าปิรุตเขาได้นำมันกลับมาที่อิตาลีก่อนจะเปิดดูแล้วพบว่ากระดาษเปื่อยแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับร้อยชิ้นทำให้ไม่สามารถอ่านรายชื่อบนกระดาษบางส่วนได้แม้จะพยายามฟื้นฟูสภาพและปะติดปะต่อแต่ชิ้นส่วนก็หายไปกว่าครึ่งเมื่อนำมาประกอบกันและมีความยาว 170 เซนติเมตรกว้าง 41 cm สามารถรวบรวมรายชื่อของกษัตริย์บางพระองค์จนถึงราชวงศ์ที่ 20 ด้วยสองแถวแรกก็ถึงเทพเจ้าและวิญญาณในตำนานด้วยนั่นหมายความว่าช่วงแรกอียิปต์ถูกปกครองด้วยเทพเจ้าเหรอเนี่ยอย่างนี้ก็ตามข้อสงสัยนี้ยังคงเป็นปริศนาแต่ถ้าอยากเห็นของจริงมีรายงานว่ายังคงมีชิ้นส่วนที่สภาพดีอยู่ในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในเมืองสุรินทร์ประเทศอิตาลีซึ่งเป็นความหวังว่าจะได้รายชื่อของฟาโรห์เพิ่มขึ้นอีก
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ในวันขอบคุณพระเจ้าของชาวคริสต์จะต้องมีเมนูไก่งวงอยู่บนโต๊ะแต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าจริงๆแล้วไก่งวงหน้าตาซื่อๆนั้นเป็นที่เคารพระหว่างตัวของชาว attack ในฐานะเทพเจ้าชานชูทอลินรวมไปถึงสัญลักษณ์แห่งอำนาจและศักดิ์ศรีของราชวงศ์และชาวมายามาตั้งแต่ราวๆ 2,000 ปีก่อนแล้วจากหลักฐานที่พบฟอสซิลเก่งวงหลายชิ้นเน้นแหล่งโบราณคดีซึ่งเคยเป็นแหล่งชุมชนของชาวมายาในกัวเตมาลาคาดว่าซากกระดูกไก่งวงที่พบไม่น่าจะมาจากการบริโภคทั่วไปตามปกติแต่น่าจะเป็นการเซ็ตสังเวียนในพิธีกรรมหรืองานเลี้ยงของชนชั้นสูงเนื่องจากยุคนั้นแกงงได้ถูกยกย่องว่าเป็นที่สิงสถิตหรือผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพแต่ละตัวมีพรสวรรค์และอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ในตอนกลางคืนอีกด้วยส่วนเหตุผลที่พวกเขาให้ความสำคัญกันขนาดนี้นักโบราณคดีกล่าวว่าอารยธรรมเมโสอเมริกาถือว่านกเป็นสัตว์ที่คนรวยหรือผู้มีอำนาจเท่านั้นที่จะสามารถเป็นเจ้าของได้นั่นเองแหมโอ้ฝ่ายดีไม่เบาเลยนะเนี่ย
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ย้อนไปเมื่อปี 1585 จองกิจได้ไปถึงโลกใหม่และก่อตั้งอาณานิคมบนเกาะโลอนกจนกระทั่งปี 1590 ซ่อนไว้ผู้ว่ากาโรอรรณพซึ่งไปทำธุระที่อังกฤษก็กลับมาที่นี่ก็คราวนี้ต้องอ้าปากค้างเมื่อดินแดนที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนเรื่องเงียบสงัดอะไรผู้อยู่อาศัยโดยไม่มีร่องรอยการบุกรุกหรือต่อสู้ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปไหนทิ้งเพียงรอยสลักไว้บนเสาไม้เขียนไว้ว่าขอโทษซึ่งเป็นชื่อของเกาะข้างเคียงเท่านั้นท่านผู้ว่าไม่รอช้าจัดการเดินเรือพร้อมเจ้าคณะไปตามหาลูกบ้านทันทีแต่ก็สู้ลมพายุรุนแรงไม่ไหวจนต้องพาผู้ติดตามหันหัวเรือกับกลางทางเราก็บ่มีอะไรสักอย่างขัดลาบไม่อยากให้ตามหาอย่างนั้นยังไงก็ตามปัจจุบันหลักฐานหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าอรรณพและกระจายตัวไปกลมกลืนกับคนทั่วไปในอเมริกาแล้วพร้อมกับทิ้งปริศนาให้งงว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่โรคระบาดให้ธรรมชาติหรือความอดอยากกันแน่
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
จักรวาลความเชื่อเรื่องพระเจ้าของชาวยุโรปนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงปีค.ศ 52 โดยแนวคิดหลักก็คือทุกสิ่งในจักรวาลรวมถึงบนโลกนี้ล้วนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันภายใต้การกำหนดของพระเจ้าไม่ว่าเรื่องชาติกำเนิดใครเกิดมาจนหรือรวยขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของพระเจ้าและได้ลำดับชั้นห่วงโซ่แห่งจักรวาลขึ้นมาด้วยมีพระเจ้าอยู่ชั้นสูงสุดเหนือเทวดารองลงมาคือมนุษย์และสัตว์ก่อนจะถึงลำดับที่ต่ำกว่านั้นก็คือพืชและแร่ธาตุซึ่งความเชื่อนี้เองถ้าไม่มีการเปรียบเทียบกษัตริย์ในยุคนั้นว่าเป็นเสมือนเทพเจ้าหรือบุคคลศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสื่อสารกับพระเจ้าได้ใครที่ไม่เชื่อฟังจึงถือว่าเป็นคนบาปนี่เป็นกุศโลบายที่ทำให้การปกครองง่ายขึ้นในทางกลับกันหากคนไม่ดีได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ก็จะทำให้บ้านเมืองเกิดอาเพศเช่นมีภัยธรรมชาติหรือปลูกพืชผลไม่อุดมสมบูรณ์หรือแม้กระทั่งโศกนาฏกรรมของโรมิโอกับจูเลี่ยนก็เชื่อว่ามาจากการที่ผู้กองไม่เชื่อฟังคำสอนเหล่านี้ด้วยเช่นกันแต่จะจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ในช่วง 900-1,200 ปีก่อนคริสตกาลถือเป็นช่วงวิกฤตของยุคสำริดและได้รับความสนใจจากผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์เนื่องจากยุคนั้นเต็มไปด้วยเหตุการณ์เลวร้ายสารพัดไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือความโกลาหลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกรุกจับกลุ่มคนลึกลับเข้าโจมตีอียิปต์จากชายฝั่งทะเลซึ่งนักวิชาการปัจจุบันเรียกพวกเขาว่าชาวทะเลแต่ไม่รู้ที่มาที่ไปของคนเหล่านี้แน่ชัดจากหลักฐานของชาวอียิปต์เพียงกล่าวไว้ว่าชาวทะเลมาพร้อมกับเรือรบโจมตีจักรวรรดิโบราณเหมือนนักต่อนักทั้งอียิปต์ที่ไทยและอื่นๆในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนคาดว่าอาจเป็นชาว intasculus time ไม่ซีเรียสหรือไม่มี No อันอีกทั้งชื่อเรียกชาวทะเลก็ไม่ได้มีมาแต่แรกแต่เพิ่งถูกเรียกโดยการมาสไปโร่นักอียิปต์วิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสในปี 1881 ที่กล่าวถึงชนเผ่าที่บุกขึ้นฝั่งจากทะเลหรืออาจมาจากเกาะใดก่อนหนึ่งเพียงแต่ไม่รู้แน่ชัดว่าที่ไหนก็เท่านั้น
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ผลของอาณาจักรกู๊ดคงไม่มีใครคิดว่าดินแดนที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองเป็นแหล่งสำคัญทางการค้าและประสงค์การเผยแพร่พุทธศาสนาในช่วงปีคริสตศักราช 842 อย่างอาณาจักรกรุ๊ปที่มีสถาปัตยกรรมน่าตื่นตาตื่นใจไม่ว่าจะเป็นพระราชวังฤดูร้อนและวัดว่าอารามรวมไปถึงปฏิมากรรมทางศาสนาตลอดจนเส้นทางลัดและป้อมปราการที่แน่นหนาจนยากแก่การรุกรานจะรกร้างไปได้ในชั่วข้ามคืนประชาชนนับแสนอันตรายหายไปแบบไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าจะมีสาเหตุมาจากภัยธรรมชาติอีกด้วยมีเพียงหลักฐานที่กล่าวว่าหลังจากกษัตริย์องค์สุดท้ายพร้อมกับราชวงศ์อื่นๆถูกนำไปคุมขังที่ลาดักและถูกรัฐบาลทิเบตยึดครองภายใต้การนำขององค์ดาราลายดามาที่ 5 ช่วงราวๆปี 1,679 เท่านั้นแต่การที่คนหายไปนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่และทิ้งไว้ให้นักประวัติศาสตร์คงคิดกันมาจนถึงปัจจุบัน
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
ของกำแพงเมืองจีน 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างกำแพงเมืองจีนที่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความยาวกว่า 20,000 กิโลเมตรแล้วยังมีความลับภายใต้ความแข็งแกร่งของกำแพงด้วยนะกล่าวกันว่าเป็นเพราะมีเคล็ดลับอย่างผมสีขาวที่ผสมในปูนไม่ใช่แป้งจากทุกคนเขาเล่ากันว่าสิ่งนั้นคือกระดูกมนุษย์ที่บวชเป็นผงใส่ลงไปในส่วนผสมก่อนจะหวาดกลัวเกินไปใหญ่ทางผู้เ****วชาญได้ออกมาพิสูจน์แล้วว่าผมสีขาวซึ่งเป็นเคล็ดลับสุดยอดของคอนกรีตจีนแท้จริงแล้วคือข้าวเหนียวนั่นเองจ้าโดยสมัยโบราณช่างก่อสร้างจีนโดยใช้ข้าวเหนียวผสมลงในโครงสร้างต่างๆเมื่อนั้นนับพันปีตั้งแต่เจดีย์สะพานตลอดจนสุดสั่นและอื่นๆเป็นภูมิปัญญาสุดเจ๋งที่ทำให้สิ่งก่อสร้างคงอยู่ยืนนานปัจจุบันนักอนุรักษ์ได้ใช้แนวคิดนี้ในการพัฒนาต่อยอดผสมผสานระหว่างข้าวเหนียวกับเทคโนโลยียุคใหม่เพื่อสร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการบูรณะโบราณสถานด้วยแหมถือว่าเป็นเคล็ดลับสุดยอดขอ
*** ดูวิดีโอท้ายคลิป ***
